สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานเตือนว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 56 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 70.73 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. 2564
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 69 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 73.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. 2564
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจาก IEA เปิดเผยว่า ตลาดน้ำมันโลกกำลังเผชิญกับภาวะน้ำมันล้นตลาด และภาวะดังกล่าวจะรุนแรงขึ้นในช่วงต้นปีหน้า นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนส่งผลกระทบต่อการเดินทางระหว่างประเทศ
รายงานของ IEA ระบุว่า ปริมาณน้ำมันกำลังดีดตัวขึ้นทั่วโลก จากการเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส และการระบายน้ำมันจากคลังสำรองของชาติต่างๆ นำโดยสหรัฐ รวมทั้งการที่สหรัฐ แคนาดา และบราซิลเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน
ทั้งนี้ IEA คาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันโลกจะมีปริมาณน้ำมันส่วนเกิน 1.7 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงต้นปี 2565 นอกจากนี้ IEA ยังได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกลง 600,000 บาร์เรล/วันในไตรมาสแรกของปี 2565
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 ธ.ค.