สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) เนื่องจากความกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะส่งผลให้ประเทศต่าง ๆ กลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์และควบคุมการเดินทาง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 2.63 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 68.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 2 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 71.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนกำลังแพร่ระบาดในอัตราที่รวดเร็วกว่าสายพันธุ์เดลตา พร้อมกับเตือนว่า ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนสามารถแพร่เชื้อไปยังผู้ที่ได้รับวัคซีนมาแล้ว หรือผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 มาก่อน
นักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอนอาจผลักดันให้หลายประเทศกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง โดยล่าสุดผู้นำอังกฤษประกาศว่าจะใช้มาตรการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอนหากจำเป็น ขณะที่เนเธอร์แลนด์เริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบที่ 4 และหลายประเทศในยุโรปกำลังพิจารณาใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาด
ทางด้านสำนักงานพลังงานสากล (IEA) กล่าวว่า ตลาดน้ำมันโลกกำลังเผชิญกับภาวะน้ำมันล้นตลาด และภาวะดังกล่าวจะรุนแรงขึ้นในช่วงต้นปีหน้า พร้อมกับเตือนว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนส่งผลกระทบต่อการเดินทางระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปี 2565 เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.75 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนอาจถูกคว่ำในวุฒิสภาสหรัฐ
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสแรกของปี 2565 สู่ระดับ 2% จากเดิมที่ระดับ 3% และปรับลดคาดการณ์สำหรับไตรมาส 2 และ 3 สู่ระดับ 3% และ 2.75% ตามลำดับ จากเดิมที่ระดับ 3.5% และ 3%