สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 71 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาน้ำมันร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนยืนยันว่า สหรัฐจะไม่ล็อกดาวน์ประเทศแม้ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนยังคงแพร่ระบาด
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2.51 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 71.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 2.46 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 73.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังราคาร่วงลงอย่างหนักติดต่อกัน 2 วันทำการ อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ปธน.ไบเดนยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐจะไม่กลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์เหมือนกับที่เคยทำในเดือนมี.ค. 2563 พร้อมกับขอความร่วมมือให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต
ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนได้อนุมัติการแจกชุดตรวจโควิด-19 แบบ rapid test ฟรีจำนวน 500 ล้านชุดให้แก่ประชาชน เริ่มตั้งแต่เดือนม.ค. 2565 และจะจัดส่งบุคลากรทางการแพทย์ของรัฐบาลกลางไปยังโรงพยาบาลที่กำลังเผชิญปัญหาในการรับมือกับผู้ป่วยจำนวนมากในช่วงฤดูหนาวนี้
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นจะปรับตัวเพิ่มขึ้น