สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) ขานรับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง แม้ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาด
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 58 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 76.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 79.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 6 และปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล
ข้อมูล EIA สอดคล้องกับรายงานของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าตะลดลงเพียง 31,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 59,000 บาร์เรล
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 4 ม.ค.2565 เพื่อพิจารณานโยบายการผลิตสำหรับเดือนก.พ.2565