สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (3 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะยังคงยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการประชุมวันนี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 76.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.2 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 78.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นในวันจันทร์ที่ 3 ม.ค. ซึ่งเป็นการซื้อขายวันแรกของปี 2565 โดยราคาสัญญาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากปี 2564 ซึ่งพุ่งขึ้นกว่า 50% โดยได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19
นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันนี้ (4 ม.ค.) เพื่อพิจารณานโยบายการผลิตสำหรับเดือนก.พ. ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า ที่ประชุมโอเปกพลัสจะยังคงยึดมั่นตามข้อตกลงปัจจุบันในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.พ. โดยคาดว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะส่งผลกระทบเพียงชั่วคราวต่ออุปสงค์น้ำมัน
ทั้งนี้ โอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันนับตั้งแต่กลางปี 2564 แม้ถูกกดดันจากสหรัฐและประเทศพันธมิตรที่ต้องการให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตน้ำมันมากกว่านี้
นอกจากนี้ กลุ่มโอเปกชุดใหญ่จะจัดการประชุมในวันนี้เช่นกัน เพื่อหารือการแต่งตั้งเลขาธิการคนใหม่แทนนายโมฮัมหมัด บาร์คินโดจากไนจีเรีย โดยมีการคาดการณ์ว่าที่ประชุมจะเห็นพ้องการแต่งตั้งนายไฮทัม อัล-เกอิสจากคูเวตให้รับตำแหน่งดังกล่าว