สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ในวันพุธ (5 ม.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิม ในการประชุมนโยบายการผลิตเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 77.85 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. 2564
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 80.80 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. 2564
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 2.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องติดต่อกันยาวนานถึง 6 สัปดาห์ และบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
รายงานดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 6.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มโอเปกพลัสมีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.พ. ตามที่ตลาดคาดการณ์ก่อนหน้านี้ โดยข้อตกลงเดิมซึ่งชาติสมาชิกโอเปกพลัสได้ทำร่วมกันในเดือนก.ค. 2564 ระบุว่า โอเปกพลัสจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันในแต่ละเดือน จนถึงเดือนเม.ย.2565
ทางด้านทำเนียบขาวได้แสดงท่าทีขานรับการตัดสินใจของกลุ่มโอเปกพลัสที่มีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมด้วยการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.พ. โดยโฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวกล่าวว่า "คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน มุ่งมั่นที่จะสร้างความเชื่อมั่นว่า อุปทานน้ำมันมีเพิ่มขึ้นเพียงพอรองรับความต้องการในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว และการตัดสินใจของโอเปกพลัสในการประชุมล่าสุดนี้ จะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก"
"เรารู้สึกพอใจกับความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งเป็นพันธมิตรของเรา และประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่น ๆ ของโอเปกพลัส เพื่อที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหาราคาน้ำมัน และเรายินดีที่กลุ่มโอเปกพลัสตัดสินใจที่จะยังคงเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน" โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวกล่าว