สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (7 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายสัญญาน้ำมันดิบออกมา หลังจากผิดหวังที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรต่ำกว่าคาด แม้ว่าตลาดจะยังคงมีความวิตกเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันที่เกิดจากเหตุการณ์ไม่สงบในคาซัคสถานและการผลิตน้ำมันที่ลดลงในลิเบียก็ตาม
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 56 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 78.90 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวขึ้น 4.9% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 81.75 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่พุ่งขึ้น 5.1% ในรอบสัปดาห์นี้
นักวิเคราะห์รายหนึ่งให้ความเห็นว่า ตลาดน้ำมันถูกกดดันในวันศุกร์ หลังจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด รวมทั้งยังคงวิตกเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 199,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 422,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.9% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.1%
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์นี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมัน แม้มีความวิตกว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนอาจกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
ปัญหาความไม่สงบในคาซัคสถาน และการผลิตน้ำมันที่ลดลงในลิเบียได้ช่วยหนุนตลาดน้ำมันในสัปดาห์นี้ โดยคาซัคสถานเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยน้ำมัน และเป็นสมาชิกของกลุ่มโอเปกพลัส
ส่วนการผลิตน้ำมันในลิเบียลดลงมากกว่า 500,000 บาร์เรล/วัน เนื่องจากมีการปิดบ่อน้ำมันหลายแห่ง รวมทั้งมีการปิดซ่อมบำรุงท่อส่งน้ำมันด้วย