สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ทะลุระดับ 87 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากความขัดแย้งในยูเครนและตะวันออกกลาง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน
ณ เวลา 23.06 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 1.72 ดอลลาร์ หรือ 2.01% สู่ระดับ 87.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทำเนียบเครมลินออกแถลงการณ์เตือนในวันนี้ว่า รัสเซียจะทำการตอบโต้อย่างรวดเร็ว หากสหรัฐและพันธมิตรปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัสเซีย และยังคงดำเนินนโยบายที่แข็งกร้าว
ทั้งนี้ รัสเซียยื่นข้อเรียกร้องต่อสหรัฐและชาติตะวันตกเพื่อให้มีการรับประกันว่า องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จะไม่รับยูเครนและประเทศซึ่งเคยอยู่ในอดีตสหภาพโซเวียตเข้าเป็นสมาชิก ขณะที่สหรัฐและพันธมิตรจะต้องถอนกำลังทหารออกจากกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต
นอกจากนี้ รัสเซียระบุว่าจะไม่ตัดทางเลือกในการเพิ่มกำลังทหารและยุทโธปกรณ์เข้าไปในคิวบาและเวเนซุเอลา หากข้อเรียกร้องของรัสเซียไม่ได้รับการตอบสนอง
หากรัสเซียเพิ่มกำลังทหารเข้าไปในคิวบาและเวเนซุเอลา ก็จะถือว่ารัสเซียมีกำลังทหารเข้าใกล้พรมแดนสหรัฐ ซึ่งอาจทำให้เกิดวิกฤตการณ์เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในปี 2505 ซึ่งมีการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างสหรัฐและสหภาพโซเวียต จนเกือบลุกลามกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์
ทางด้านกบฎฮูตีใช้โดรนและขีปนาวุธโจมตีแหล่งกักเก็บเชื้อเพลิงของบริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี (ADNOC) และพื้นที่ก่อสร้างใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะยังคงยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันในการประชุมในวันที่ 2 ก.พ. เพื่อพิจารณานโยบายการผลิตสำหรับเดือนมี.ค.
ก่อนหน้านี้ โอเปกพลัสมีมติในเดือนก.ค.2564 ในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันในแต่ละเดือน จนถึงเดือนเม.ย.2565
นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ และเจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันจะพุ่งแตะ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ ท่ามกลางภาวะน้ำมันตึงตัว และอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในตลาด