ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นในวันนี้ หลังมีรายงานว่า กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนได้ยิงขีปนาวุธข้ามพรมแดนเพื่อหวังโจมตีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) อีกระลอก
ณ เวลา 19.37 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. ปรับตัวขึ้น 35 เซนต์ หรือ 0.40% แตะที่ 87.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนได้ยิงขีปนาวุธข้ามพรมแดนเพื่อหวังโจมตี UAE ในช่วงเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ (30 ม.ค.) โดยนับเป็นครั้งที่ 3 ภายในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ที่กลุ่มกบฎฮูตีก่อเหตุโจมตี UAE ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวร่วมสำคัญของกองกำลังพันธมิตรภายใต้การนำของซาอุดีอาระเบีย ขณะที่กลุ่มกบฎฮูตีได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอิหร่านซึ่งเป็นคู่ปรับของซาอุดีอาระเบีย กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้เพิ่มคำเตือนให้ระวังอันตรายจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธหรือโดรนในการเดินทางไปยัง UAE โดยแถลงการณ์ระบุว่า "การโจมตีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อพลเมืองและผลประโยชน์ของสหรัฐในอ่าวอาหรับ โดยกลุ่มกบฏที่ปฏิบัติการอยู่ในเยเมนได้แสดงความต้องการที่จะโจมตีประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึง UAE โดยใช้ขีปนาวุธและโดรน ซึ่งการโจมตีที่ผ่านมานั้นมีเป้าหมายไปยังพื้นที่ซึ่งมีประชากรหนาแน่นและสาธารณูปโภคพื้นฐานของพลเรือน"
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ยูเครนอย่างใกล้ชิด หลังจากนายจอห์น เคอร์บี้ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ (เพนตากอน) เปิดเผยว่า รัสเซียยังคงเพิ่มกำลังทหารบริเวณพรมแดนติดกับยูเครนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสในวันที่ 2 ก.พ.นี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า โอเปกพลัสจะมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันในการประชุมครั้งนี้ แม้ถูกกดดันจากสหรัฐและประเทศพันธมิตรที่ต้องการให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตน้ำมันมากกว่านี้