สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (18 ก.พ.) โดยถูกกดดันจากสัญญาณความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลกอีกครั้ง
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 69 เซนต์ หรือเกือบ 0.8% ปิดที่ 91.07 ดอลลาร์/บาร์เรล และลดลง 2.2% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 93.54 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลงราว 1% ในรอบสัปดาห์นี้
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ตลาดน้ำมันนิวยอร์กร่วงลงหลังจากมีรายงานว่า ใกล้มีการบรรลุข้อตกลงในการเจรจาด้านนิวเคลียร์กับอิหร่าน
นายคาร์สเตน ฟริตช์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานของคอมเมิร์ซแบงก์ รีเสิร์ชเปิดเผยในวันศุกร์ว่า "แนวโน้มที่อิหร่านจะกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลกนั้น อาจจะถ่วงสัญญาน้ำมันล่วงหน้าที่จะครบกำหนดส่งมอบในช่วงครึ่งหลังของปีนี้"
ชาติมหาอำนาจและอิหร่านได้กลับมาเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ที่กรุงเวียนนา ขณะที่สหรัฐได้เข้าร่วมการเจรจาดังกล่าวทางอ้อม หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศถอนตัวจากการเจรจาในปี 2561
นายเนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า การเจรจาในประเด็นนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐและอิหร่านใกล้จะได้ข้อสรุปแล้ว
ที่ผ่านมานั้น สหรัฐได้ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรบางส่วนต่ออิหร่านแล้ว แต่อิหร่านเรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมด และให้การรับประกันว่าจะไม่มีการใช้มาตรการลงโทษอิหร่านต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ ความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อาจส่งผลให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาดโลกได้กว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งจะทำให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้นราว 1% และสร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมัน
อย่างไรก็ดี บรรดาเทรดเดอร์ยังคงจับตาความคืบหน้าของสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะช่วยหนุนตลาดน้ำมัน