สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 95 ดอลลาร์ในวันจันทร์ (28 ก.พ.) ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังไม่มีแนวโน้มบรรเทาลง ขณะที่นักลงทุนกังวลว่าการที่สหรัฐและชาติตะวันตกคว่ำบาตรธนาคารรัสเซียจะส่งผลกระทบทางอ้อมต่อการส่งออกพลังงานไปสู่ตลาด
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 4.13 ดอลลาร์ หรือ 4.5% ปิดที่ 95.72 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2557 และตลอดเดือนก.พ. สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 8.6%
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 3.06 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 100.99 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2557 และตลอดเดือนก.พ. สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 10.7%
รัสเซียกำลังเผชิญกับภาวะติดขัดด้านการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ทุกประเภท ตั้งแต่น้ำมันไปจนถึงธัญพืช หลังจากสหรัฐและชาติตะวันตกประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งรวมถึงการตัดธนาคารรัสเซียบางแห่งออกจากระบบ SWIFT นอกจากนี้ สหรัฐได้ประกาศอายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียในสหรัฐ และห้ามชาวอเมริกันทำธุรกรรมกับธนาคารกลางรัสเซีย
คณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครนได้จัดการเจรจาโดยตรงเมื่อวานนี้เพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง แต่ก็ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงร่วมกันได้ ส่วนการเจรจารอบต่อไปจะมีขึ้นที่ชายแดนเบลารุสและโปแลนด์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลก
นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 2 มี.ค.เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตสำหรับเดือนเม.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าโอเปกพลัสจะมีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการประชุมสัปดาห์นี้ โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันสำหรับเดือนเม.ย.