สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (4 มี.ค.) เนื่องจากการสู้รบอย่างต่อเนื่องระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะชะงักงันด้านอุปทานพลังงาน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 8.01 ดอลลาร์ หรือ 7.4% ปิดที่ 115.68 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2551 และในรอบสัปดาห์นี้ ราคาสัญญาพุ่งขึ้น 26.3%
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 7.65 ดอลลาร์ หรือ 6.9% ปิดที่ 118.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2556 และในรอบสัปดาห์นี้ ราคาสัญญาพุ่งขึ้น 25.5%
ราคาน้ำมันทะยานขึ้น ขณะที่ข่าวเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังคงเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางตลาด โดยในขณะที่การสู้รบยังคงดำเนินต่อไปนั้น ชาติตะวันตกได้เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ขณะที่บริษัทของตะวันตกจำนวนมากขึ้นถอนการทำธุรกิจออกจากรัสเซีย
ยูนา พาร์ค-ฮีเกอร์ นักวิเคราะห์ของคอมเมิร์ซแบงก์ รีเสิร์ชเปิดเผยว่า ตลาดยังคงวิตกเกี่ยวกับอุปทานพลังงาน
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประกาศเมื่อวันพุธ (2 มี.ค.) ว่า มีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิม โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันสำหรับเดือนเม.ย. แม้มีความวิตกเกี่ยวกับอุปทานท่ามกลางวิกฤตยูเครนก็ตาม
คาร์สเทน ฟริทช์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากคอมเมิร์ซแบงก์ รีเสิร์ชระบุว่า "โอเปกพลัสได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการตัดสินใจในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมาที่เพิ่มกำลังผลิตไม่เพียงพอต่อการรองรับความต้องการของตลาด"