สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ในวันจันทร์ (14 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่จีนประกาศล็อกดาวน์เมืองเซินเจิ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งจะกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 6.32 ดอลลาร์ หรือ 5.8% ปิดที่ 103.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2565
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 5.77 ดอลลาร์ หรือ 5.1% ปิดที่ 106.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 2565
นายมิไคโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เปิดเผยว่า การเจรจาสันติภาพรอบที่ 4 ระหว่างยูเครนและรัสเซียซึ่งจัดขึ้นในเมื่อวานนี้ได้เสร็จสิ้นลงโดยยังไม่ได้ข้อสรุป และทั้งสองฝ่ายจะพักการเจรจาชั่วคราว ก่อนที่จะเริ่มการเจรจาครั้งใหม่ในวันนี้ (15 มี.ค.) โดยการเจรจาสันติภาพในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องให้รัสเซียทำการหยุดยิงและถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากยูเครน
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากรายงานที่ว่า รัฐบาลจีนประกาศล็อกดาวน์เมืองเซินเจิ้นเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมาตรการล็อกดาวน์อาจส่งผลให้เกิดภาวะติดขัดด้านการขนส่งและการผลิตในเมืองเซินเจิ้น ซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของจีนและมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 17.5 ล้านคน
จีนพบผู้ติดชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นเกือบ 3,400 รายในวันอาทิตย์ (13 มี.ค.) ซึ่งสูงกว่าวันก่อนถึง 2 เท่า ส่งผลให้รัฐบาลจีนตัดสินใจล็อกดาวน์หลายพื้นที่ รวมถึงเมืองเซินเจิ้นซึ่งเป็นเมืองท่าที่สำคัญและเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของจีน ขณะที่เมืองจี๋หลินประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นบางส่วน ส่วนเมืองหยานจี๋ซึ่งติดกับเกาหลีเหนือได้ล็อกดาวน์แล้วทั้งเมือง