สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 6% ในวันอังคาร (15 มี.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการที่จีนประกาศล็อกดาวน์เมืองเซินเจิ้นเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้ การที่นักลงทุนคาดหวังความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงด้วย
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 6.57 ดอลลาร์ หรือ 6.4% ปิดที่ 96.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 6.99 ดอลลาร์ หรือ 6.5% ปิดที่ 99.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
รัฐบาลจีนประกาศล็อกดาวน์เมืองเซินเจิ้นเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะติดขัดด้านการขนส่งและการผลิตในเมืองเซินเจิ้น ซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและเป็นเมืองท่าที่สำคัญของจีน ขณะเดียวกันจีนได้สั่งล็อกดาวน์มณฑลจี้หลินซึ่งมีพรมแดนติดกับรัสเซีย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563 ที่รัฐบาลจีนตัดสินใจล็อกดาวน์ทั้งมณฑล
มอร์แกน สแตนลีย์ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในไตรมาสแรกปีนี้ลงเหลือ 0% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 0.6% และคาดว่าจีนจะพลาดเป้าหมายการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ด้วย โดยมอร์แกน สแตนลีย์คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังชะลอตัวลง จากการที่นักลงทุนคาดหวังว่าการเจรจาสันติภาพรอบที่ 4 ระหว่างรัสเซียและยูเครนจะประสบความคืบหน้า โดยการเจรจาดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการเรียกร้องให้รัสเซียทำการหยุดยิง และถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากยูเครน
ทำเนียบเครมลินแถลงว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และนายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป ได้สนทนากันทางโทรศัพท์เมื่อวานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน นอกจากนี้ ปธน.ปูตินยังได้เปิดเผยถึงการประเมินของเขาเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพระหว่างคณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครนเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ดังกล่าว
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย