ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันนี้ โดยล่าสุด สัญญาล่วงหน้า WTI อยู่ที่ราว 102 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ที่ราว 106 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมัน
ณ เวลา 22.05 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX บวก 7.44 ดอลลาร์ หรือ 7.82% สู่ระดับ 102.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ บวก 8.03 ดอลลาร์ หรือ 8.19% สู่ระดับ 106.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจต่อความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากที่นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวปฏิเสธรายงานข่าวจากสื่อที่ระบุว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนได้ประสบความคืบหน้าอย่างมาก และทั้งสองฝ่ายใกล้บรรลุข้อตกลง
"ผมขอบอกว่าข่าวดังกล่าวผิดทั้งหมด ซึ่งเมื่อมีความคืบหน้า ผมจะบอกคุณเอง" นายเพสคอฟกล่าว
นายเพสคอฟยังได้ตำหนิฝ่ายยูเครนที่ได้ถ่วงการเจรจา ทั้งๆที่ฝ่ายรัสเซียพร้อมที่จะเจรจาตลอด 24 ชั่วโมง โดยการเจรจาจะยังคงดำเนินไปในวันนี้
ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์รายงานวานนี้ว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนได้ประสบความคืบหน้าอย่างมาก และจะมีการบรรลุข้อตกลงในไม่ช้า
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานเตือนภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมัน โดยมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียจะส่งผลให้รัสเซียไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันอื่นๆ รวม 3 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนเม.ย. ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะลดลงเพียง 1 ล้านบาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น รวมทั้งการที่จีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และคาดว่าจีนจะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจากที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่มีจำนวนลดลง
ทางด้านมอร์แกน สแตนลีย์ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สู่ระดับ 120 ดอลลาร์/บาร์เรลในไตรมาส 3 และคาดว่าการผลิตน้ำมันของรัสเซียจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนเม.ย.