สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 7% ในวันจันทร์ (21 มี.ค.) หลังมีรายงานข่าวว่า ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) กำลังพิจารณาคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียตามรอยสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 7.42 ดอลลาร์ หรือ 7.09% ปิดที่ 112.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 7.69 ดอลลาร์ หรือ 7.12% ปิดที่ 115.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ในสหภาพยุโรป (EU) กำลังพิจารณาว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียหรือไม่ โดยในสัปดาห์นี้บรรดาผู้นำใน EU จะร่วมหารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เกี่ยวกับนโยบายที่จะใช้ตอบโต้รัสเซียซึ่งใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครนเมื่อเดือนที่แล้ว
เจ้าหน้าที่ทูตอาวุโสของ EU เปิดเผยว่า EU กำลังอยู่ในระหว่างกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรอบที่ 5 ต่อรัสเซีย โดยรัฐมนตรีต่างประเทศของ EU ได้ร่วมหารือกันเมื่อวานนี้ ก่อนที่จะเปิดฉากการประชุมร่วมกับปธน.ไบเดนในวันพฤหัสบดีที่ 24 มี.ค. รวมถึงชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) 30 ประเทศ, ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป และกลุ่มประเทศ G7 ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่น
ทั้งนี้ แม้รัสเซียถูกคว่ำบาตรไปแล้วถึง 4 รอบ แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะถอนกำลังออกจากยูเครน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ EU เริ่มพิจารณาว่าอาจต้องใช้ทางเลือกที่รุนแรงขึ้น เช่นการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งสหรัฐและอังกฤษได้ดำเนินการนำร่องไปแล้วก่อนหน้านี้
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย