สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันจันทร์ (28 มี.ค.) หลังจีนประกาศล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมาตรการดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกว่าจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันของจีน ซึ่งเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 7.94 ดอลลาร์ หรือ 7% ปิดที่ 105.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ดิ่งลง 8.17 ดอลลาร์ หรือ 6.8% ปิดที่ 112.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
เมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการเงินของจีน ประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยการล็อกดาวน์จะแบ่งเป็น 2 ส่วน และเริ่มตั้งแต่ที่ 28 มี.ค. ไปจนถึงวันที่ 5 เม.ย.
ทางการเซี่ยงไฮ้ระบุว่า ในระหว่างการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งนี้ ประชาชนจะถูกสั่งไม่ให้ออกจากบ้าน ขณะที่การบริการด้านขนส่งสาธารณะและการบริการเรียกรถโดยสารจะถูกระงับ นอกจากนี้ ธุรกิจต่าง ๆ จะถูกสั่งให้ปิดการดำเนินงาน หรืออาจให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน ยกเว้นธุรกิจที่ให้บริการของใช้ประจำวันแก่ประชาชนที่สามารถเปิดทำการได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแล
สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับผลกระทบจากการที่สหภาพยุโรป (EU) ไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับแผนการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย รวมทั้งรายงานที่ว่า บริษัทแคสเปียน ไปป์ไลน์ คอนซอร์เทียม (CPC) ได้เริ่มกลับมาส่งออกน้ำมันบางส่วน หลังจากมีการระงับส่งออกก่อนหน้านี้ เนื่องจากประสบความเสียหายจากพายุ
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐและพันธมิตรประสบความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งหากมีการบรรลุข้อตกลงดังกล่าว ก็จะปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาด
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 31 มี.ค. ซึ่งคาดว่าโอเปกพลัสจะยังคงมีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิม โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันสำหรับเดือนพ.ค.