สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 4% ในวันจันทร์ (11 เม.ย.) ขณะที่สัญญาน้ำมันเบรนท์ดิ่งหลุดจากระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าแพร่ระบาดอย่างหนักของโรคโควิด-19 ในจีนจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน รวมทั้งรายงานข่าวการระบายน้ำมันของสำนักงานพลังงานสากล (IEA)
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 3.97 ดอลลาร์ หรือ 4.0% ปิดที่ 94.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 4.30 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 98.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากยูเรเซีย กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงานเปิดเผยว่า ความต้องการใช้เชื้อเพลิงในจีนซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันรายใหญ่สุดของโลก ชะลอตัวลงอย่างมาก เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงเซี่ยงไฮ้
ยูเรเซีย กรุ๊ประบุว่า แม้มีรายงานว่าจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีน แต่รัฐบาลจีนจะยังคงยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์ หรือ Zero-Covid ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน โดยคาดการณ์ว่าการล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้จะส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำมันโดยรวมในจีนลดลงถึง 1.3 ล้านบาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากการที่ IEA มีมติระบายน้ำมัน 60 ล้านบาร์เรลออกจากคลังน้ำมันสำรองของประเทศสมาชิกในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ขณะที่สหรัฐจะสมทบด้วยการระบายน้ำมัน 60 ล้านบาร์เรลเช่นกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการระบายน้ำมัน 180 ล้านบาร์เรลที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ IEA ประกอบด้วยสมาชิก 31 ประเทศ โดยสมาชิกรายใหญ่ได้แก่ สหรัฐ สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส แคนาดา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย