สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันจันทร์ (25 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การที่จีนล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้เป็นเวลานาน และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 3.53 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 98.54 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. 2565
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ดิ่งลง 4.33 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 102.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมัน WTI ร่วงหลุดจากระดับ 99 ดอลลาร์ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจากการที่จีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของโลก สั่งล็อกดาวน์เมืองสำคัญเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
การล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีนได้ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 แล้ว แต่จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ยังไม่มีแนวโน้มลดลง โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (24 เม.ย.) เซี่ยงไฮ้พบผู้เสียชีวิตรายใหม่จำนวนมากถึง 51 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากจำนวน 39 รายในวันเสาร์ และทำสถิติการเสียชีวิตรายวันสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในเซี่ยงไฮ้
นอกจากนี้ จีนยังสั่งล็อกดาวน์ย่านที่อยู่อาศัยหลายสิบแห่งในเมืองเฉาหยาง กรุงปักกิ่ง และปูพรมตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว 3 ครั้งในสัปดาห์นี้ หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่หลายสิบรายในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่กรุงปักกิ่งเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากการที่เฟดส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2565 และ 2566 โดยได้รับผลกระทบจากการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลต่อความต้องการใช้น้ำมันในตลาด