สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (2 พ.ค.) หลังมีรายงานว่า สหภาพยุโรป (EU) กำลังผลักดันการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งนักลงทุนมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกตึงตัวมากขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 105.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 107.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในช่วงแรกนั้น สัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ ต่างก็ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 100.28 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากความกังวลที่ว่าการล็อกดาวน์เมืองสำคัญของจีนอาจส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง แต่ตลาดดีดตัวขึ้นในช่วงท้าย ขานรับมุมมองที่ว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกอาจเผชิญภาวะตึงตัวหาก EU ตัดสินใจคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย
คาร์สเทน ฟริตช์ นักวิเคราะห์ของคอมเมิร์ซแบงก์กล่าวว่า ความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัวยังคงมีบทบาทต่อความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ EU กำลังผลักดันให้มีการใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย หลังจากที่เยอรมนีไม่คัดค้านมาตรการดังกล่าว
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า คณะผู้แทนของเยอรมนีประจำสหภาพยุโรป ไม่ได้แสดงท่าทีคัดค้านการใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซียอย่างเต็มรูปแบบ ตราบใดเยอรมนีมีเวลามากพอที่จะหาอุปทานทางเลือกอื่น
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพุธนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย