สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร (3 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การที่จีนยังคงล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้และใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเมืองอื่น ๆ อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันของจีนซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของโลก
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 2.76 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 102.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 2.61 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 104.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในช่วงแรกนั้น สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มที่ว่าสหภาพยุโรป (EU) จะคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย หลังจากที่เยอรมนีเลิกคัดค้านมาตรการดังกล่าว แต่สัญญาน้ำมันปรับตัวลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันที่อาจลดลง อันเป็นผลมาจากมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศจีน
รายงานระบุว่า เมืองเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีนยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่จีนใช้มาตรการที่เข้มงวดในกรุงปักกิ่ง ซึ่งรวมถึงการปูพรมตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งใหญ่, สั่งปิดภัตตาคาร, โรงยิม, ศูนย์การค้า, โรงภาพยนตร์ และที่พักอาศัยในหลายพื้นที่ นอกจากนี้ เทศบาลกรุงปักกิ่งได้สั่งให้โรงเรียนทุกแห่งหยุดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. และยังไม่มีการกำหนดวันเปิดโรงเรียน
ฟิล ไฟน์ นักวิเคราะห์จากบริษัทไพรซ์ ฟิวเจอร์ส กรุ๊ป คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันจะผันผวนต่อไป เนื่องจากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์ในจีน รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจหากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลงราว 800,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสในวันที่ 5 พ.ค.นี้ เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตสำหรับเดือนมิ.ย.