สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 6% ในวันจันทร์ (9 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่จีนใช้มาตรการล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้และบางส่วนของกรุงปักกิ่งเพื่อสกัดการระบาดของโรคโควิด-19 จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 6.68 ดอลลาร์ หรือ 6.1% ปิดที่ 103.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 6.45 ดอลลาร์ หรือ 5.7% ปิดที่ 105.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
นับจนถึงขณะนี้ เซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีนและประชากรจำนวนมากถึง 25 ล้านคนยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่กรุงปักกิ่งถูกล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ และมีการใช้มาตรการควบคุมการเดินทางของประชาชน เพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19 ตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero Covid Policy) ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
นักลงทุนกังวลว่า การที่จีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของโลก ใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลานานอาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน โดยหลักฐานล่าสุดคือการนำเข้าน้ำมันของจีนลดลง 4.8% ในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว
นักลงทุนจับตานานาประเทศเตรียมใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย โดยที่ประชุมผู้นำกลุ่ม G7 ให้คำมั่นสัญญาว่าจะยุติการนำเข้าน้ำมันรัสเซีย ขณะที่นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) เสนอให้ประเทศสมาชิก EU ระงับการนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นจากรัสเซีย เพื่อตอบโต้รัสเซียที่ใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย