สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (19 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าอุปสงค์น้ำมันในจีนจะเริ่มฟื้นตัวขึ้น เมื่อนครเซี่ยงไฮ้ยุติการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 2.62 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 112.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2.93 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 112.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นขานรับการคาดการณ์ที่ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในจีนจะเพิ่มขึ้น จากการที่นครเซี่ยงไฮ้วางแผนยุติมาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 1 มิ.ย. หลังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในชุมชนติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ซึ่งถือเป็นการบรรลุเป้าหมายสำคัญที่ทางการเซี่ยงไฮ้กำหนดไว้เพื่อเป็นเกณฑ์สำหรับการเริ่มต้นผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ที่บังคับใช้มานานกว่า 6 สัปดาห์
ทั้งนี้ นครเซี่ยงไฮ้เริ่มอนุญาตให้ธุรกิจบางส่วนกลับมาเปิดดำเนินการได้อีกครั้ง ซึ่งรวมถึงห้างสรรสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และร้านทำผม โดยกำชับให้ธุรกิจเหล่านี้อยู่ภายใต้การจัดการที่เป็นระเบียบและจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ขณะเดียวกันการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 1.05% แตะที่ 102.7240 เมื่อคืนนี้ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่สหภาพยุโรป (EU) เตรียมบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย โดย EU จะจัดการประชุมสุดยอดในวันที่ 30-31 พ.ค.เพื่อพิจารณาข้อตกลงดังกล่าว