สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 110 ดอลลาร์ในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัว ขณะที่สหรัฐใกล้เข้าสู่ฤดูร้อน ซึ่งจะมีการเดินทางท่องเที่ยว ส่งผลให้มีการใช้น้ำมันมากขึ้น
ณ เวลา 22.44 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX บวก 20 เซนต์ หรือ 0.18% สู่ระดับ 109.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 737,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 482,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 634,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 917,000 บาร์เรล
ทั้งนี้ ฤดูการเดินทางท่องเที่ยวของสหรัฐมักเริ่มต้นจากวันหยุดยาวเนื่องในวัน Memorial Day ในสิ้นเดือนนี้จนถึงวันหยุดเนื่องในวันแรงงานสหรัฐในเดือนก.ย.
นักลงทุนจับตาการประชุมสุดยอดของสหภาพยุโรป (EU) ในวันที่ 30-31 พ.ค.เพื่อพิจารณามาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย
อย่างไรก็ดี นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU ยอมรับว่า สมาชิก EU ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียในการประชุมสุดยอดในวันที่ 30-31 พ.ค.
"ดิฉันคิดว่าเรื่องนี้ยังไม่เหมาะสมที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุม EC เนื่องจากเกี่ยวข้องกับปัญหาทางเทคนิค โดยสมาชิก EU บางประเทศไม่มีพรมแดนติดกับทะเล ทำให้ต้องมีการลงทุนในการสร้างท่อส่งน้ำมันเพิ่ม ขณะที่บางประเทศต้องปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงกลั่น และพลังงานหมุนเวียน" นางฟอน เดอร์ เลเยนกล่าว
ก่อนหน้านี้ EC เสนอให้มีการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน โดยเสนอให้มีการระงับการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียภายในเวลา 6 เดือนข้างหน้า และระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมทั้งหมดจากรัสเซียตั้งแต่ปี 2566 ขณะที่ยกเว้นให้ฮังการีและสโลวาเกียสามารถซื้อน้ำมันจากรัสเซียจนถึงสิ้นปี 2567
อย่างไรก็ดี EU ยังคงไม่สามารถบรรลุฉันทามติต่อข้อเสนอดังกล่าว โดยสมาชิกบางประเทศมีความกังวลต่อผลกระทบรุนแรงที่จะเกิดขึ้นจากการใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย
ด้านนางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีพลังงานสหรัฐ กล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการใช้มาตรการจำกัดการส่งออกน้ำมัน เพื่อควบคุมราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นในประเทศ
ก่อนหน้านี้ สหรัฐประกาศระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) แต่ราคาน้ำมันยังคงดีดตัวขึ้น ส่งผลให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้น และกระทบต่อคะแนนนิยมของปธน.ไบเดน
ต่อข้อถามที่ว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาจำกัดการส่งออกน้ำมันเพื่อสกัดราคาเชื้อเพลิงในประเทศหรือไม่ นางแกรนโฮล์มกล่าวว่า "ดิฉันขอยืนยันว่าท่านประธานาธิบดีจะไม่ตัดทางเลือกใดๆในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว"