สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (25 พ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูการเดินทางท่องเที่ยว
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 110.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 114.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 737,000 บาร์เรล
รายงานของ EIA ยังระบุด้วยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐลดลง 482,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ชาวอเมริกันจะใช้รถยนต์เพื่อเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด Memorial Day คึกคักมากที่สุดในรอบ 2 ปี ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์พลังงานในช่วงเวลาดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นด้วย โดยฤดูการเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุด Memorial Day จะเริ่มขึ้นในช่วงสิ้นเดือนพ.ค. ไปจนถึงวันหยุดเนื่องในวันแรงงานสหรัฐในเดือนก.ย.
นักลงทุนจับตาการประชุมสุดยอดของสหภาพยุโรป (EU) ในวันที่ 30-31 พ.ค. โดยที่ประชุมจะพิจารณามาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU เสนอให้มีการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน อย่างไรก็ดี นับจนถึงขณะนี้ EU ยังคงไม่สามารถบรรลุฉันทามติต่อข้อเสนอดังกล่าว เนื่องจากสมาชิกบางประเทศมีความกังวลต่อผลกระทบรุนแรงที่จะเกิดขึ้นจากการใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย