สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัว ขณะที่สหรัฐใกล้เข้าสู่ฤดูร้อน ซึ่งจะมีการเดินทางท่องเที่ยว ส่งผลให้มีการใช้น้ำมันมากขึ้น
ณ เวลา 22.45 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX บวก 0.14 ดอลลาร์ หรือ 0.12% สู่ระดับ 114.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ บวก 0.58 ดอลลาร์ หรือ 0.49% สู่ระดับ 117.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ ฤดูการเดินทางท่องเที่ยวของสหรัฐจะเริ่มต้นจากวันหยุดยาวเนื่องในวัน Memorial Day ในสิ้นเดือนนี้จนถึงวันหยุดเนื่องในวันแรงงานสหรัฐในเดือนก.ย.
นักลงทุนจับตาการประชุมสุดยอดของสหภาพยุโรป (EU) ในวันที่ 30-31 พ.ค.เพื่อพิจารณามาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย ขณะที่นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป เชื่อมั่นว่าสมาชิก EU จะสามารถบรรลุข้อตกลงก่อนการประชุมดังกล่าว
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะยังคงยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการประชุมสัปดาห์หน้า
แหล่งข่าวระบุว่าโอเปกพลัสจะยังคงยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการประชุมวันที่ 2 มิ.ย. โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 432,000 บาร์เรล/วันสำหรับเดือนก.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ สหรัฐและหลายชาติที่นำเข้าน้ำมันต่างเรียกร้องให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตให้มากกว่าในระดับปัจจุบันเพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นนับตั้งแต่ที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนในวันที่ 24 ก.พ.
อย่างไรก็ดี โอเปกพลัสยืนยันว่าตลาดน้ำมันมีความสมดุล และราคาที่พุ่งขึ้นในขณะนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานในตลาด
แบงก์ ออฟ อเมริกา ออกรายงานระบุว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์อาจพุ่งทะลุ 150 ดอลลาร์/บาร์เรล หากการส่งออกน้ำมันจากรัสเซียลดลงอย่างมาก
"ขณะนี้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์กำลังใกล้เป้าหมายของเราที่ระดับ 120 ดอลลาร์ เราเชื่อว่าการดิ่งลงของการส่งออกน้ำมันจากรัสเซียจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งทะลุ 150 ดอลลาร์" รายงานระบุ
นอกจากนี้ แบงก์ ออฟ อเมริกายังคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะมีราคาเฉลี่ยที่ระดับ 104.48 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ และ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีหน้า
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นนับตั้งแต่ที่รัสเซียใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครนในวันที่ 24 ก.พ.