สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในวันศุกร์ (27 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากปริมาณน้ำมันที่ตึงตัว และแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้ เนื่องในวัน Memorial Day ซึ่งเป็นวันหยุดของสหรัฐในวันจันทร์ที่ 30 พ.ค.
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 115.07 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 4.3% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2.03 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 119.43 ดอลลาร์/บาร์เรล และพุ่งขึ้น 6.1% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบได้แรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้น และปริมาณสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐที่อยู่ในระดับต่ำ
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า สต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐในปัจจุบันอยู่ต่ำกว่าระดับเฉลี่ยในรอบ 5 ปีในช่วงเวลานี้ของปีอยู่ราว 8%
บรรดาเทรดเดอร์คาดว่า ความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้ เนื่องในวัน Memorial Day ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ชาวอเมริกันจะขับรถออกไปท่องเที่ยว โดยฤดูกาลดังกล่าวจะเริ่มขึ้นในช่วงสิ้นเดือนพ.ค. ไปจนถึงวันหยุดเนื่องในวันแรงงานสหรัฐในเดือนก.ย.
นักลงทุนจับตาการประชุมสุดยอดของสหภาพยุโรป (EU) ในวันที่ 30-31 พ.ค.นี้ เพื่อพิจารณามาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย ขณะที่นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป เชื่อมั่นว่า สมาชิก EU จะสามารถบรรลุข้อตกลงก่อนการประชุมดังกล่าว
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะยังคงยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการประชุมสัปดาห์หน้า โดยแหล่งข่าวระบุว่า โอเปกพลัสจะยังคงยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการประชุมวันที่ 2 มิ.ย. โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 432,000 บาร์เรล/วันสำหรับเดือนก.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย.