สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (3 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าการตัดสินใจของกลุ่มโอเปกที่จะเพิ่มเป้าหมายการผลิตน้ำมันมากกว่าที่วางแผนไว้เล็กน้อยนั้น จะไม่ทำให้มีปริมาณน้ำมันเพิ่มขึ้นมากนักในตลาดโลก และปริมาณน้ำมันอาจจะตึงตัว เนื่องจากแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นในจีนหลังเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 118.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 2.11 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 119.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 3.3% ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 3.6%
ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น แม้กลุ่มโอเปกพลัสตัดสินใจที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้นในเดือนก.ค.
โอเปกตกลงกันเมื่อวันพฤหัสบดี (2 มิ.ย.) ที่จะเพิ่มการผลิตน้ำมัน 648,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนก.ค. สูงกว่าการปรับขึ้นก่อนหน้านี้ที่ 432,000 บาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันของสหรัฐยังบ่งชี้ถึงภาวะตลาดน้ำมันที่ตึงตัว โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 5.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า อาจลดลง 500,000 บาร์เรล
ความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของจีน และกรุงปักกิ่ง ได้ผ่อนคลายข้อจำกัดเกี่ยวกับโควิด-19 รวมทั้งรัฐบาลจีนยังได้ให้คำมั่นว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปรับตัวขึ้นหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลจ้างงานเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 390,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 325,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.5%