สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งลงกว่า 5% หลุดระดับ 111 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนวิตกว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากธนาคารกลางหลายแห่งได้พากันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของสัญญาน้ำมัน โดยทำให้สัญญามีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ณ เวลา 22.04 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ดิ่งลง 6.90 ดอลลาร์ หรือ 5.86% สู่ระดับ 110.69 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง 5.85 ดอลลาร์ หรือ 4.88% สู่ระดับ 113.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมัน WTI มีแนวโน้มปรับตัวลงในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์แรกในรอบ 8 สัปดาห์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์มีแนวโน้มปรับตัวลงเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 5 สัปดาห์
ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 28 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2537
ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2564
ส่วนธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 15 ปี ขณะที่ธนาคารกลางฮังการี บราซิล และไต้หวันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน
นอกจากนี้ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 11 ปี