สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (21 มิ.ย.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อน และอุปทานน้ำมันยังคงตึงตัวเนื่องจากชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซียเพื่อตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 110.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 114.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
สมาคมยานยนต์อเมริกัน (AAA) รายงานว่า ประชาชนประมาณ 42 ล้านคนทั่วสหรัฐมีแนวโน้มจะเดินทางด้วยรถยนต์ในช่วงวันหยุดยาวสุดสัปดาห์เนื่องในวันชาติสหรัฐ 4 ก.ค.นี้ แม้ราคาเชื้อเพลิงพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก็ตาม
ทั้งนี้ ฤดูการเดินทางท่องเที่ยวของสหรัฐเริ่มต้นจากช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวัน Memorial Day ในสิ้นเดือนพ.ค. จนถึงวันหยุดเนื่องในวันแรงงานสหรัฐในเดือนก.ย.
นักวิเคราะห์จากเอเอ็นแซด รีเสิร์ชกล่าวว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัวเป็นปัจจัยหนุนตลาด หลังจากชาติตะวันตกพากันคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย ขณะที่นักลงทุนจับตาดูว่าการผลิตน้ำมันจะลดลงมากเพียงใดอันเนื่องมาจากผลกระทบของการคว่ำบาตร
นอกจากนี้ การที่อิหร่านเพิ่มสมรรถนะในการผลิตแร่ยูเรเนียมยังเป็นปัจจัยขัดขวางการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ ซึ่งทำให้อิหร่านไม่มีแนวโน้มที่จะกลับมาส่งออกน้ำมันในเร็วๆนี้
การเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะถูกเลื่อนออกไป 1 วันเนื่องจากหน่วยงานราชการของสหรัฐปิดทำการในวันจันทร์ที่ 20 มิ.ย.เนื่องในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth) โดยสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในวันพุธ และสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพฤหัสบดีนี้