สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (27 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญกับภาวะตึงตัวมากขึ้นหลังจากกลุ่มประเทศ G7 ยืนยันว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียในระดับที่รุนแรงขึ้น เพื่อสกัดแหล่งรายได้ในการทำสงครามของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.95 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 109.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.97 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 115.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันยังคงได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัว โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า G7 จะพัฒนากลไกในการจำกัดราคาน้ำมันรัสเซียเพื่อกดดันให้รัสเซียขาดแคลนรายได้ที่จะนำมาสนับสนุนการสู้รบในยูเครน
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานเอกวาดอร์ระบุว่า เอกวาดอร์อาจต้องระงับการผลิตน้ำมัน หากการประท้วงของกลุ่มคนพื้นเมืองและการปิดถนนยังคงดำเนินต่อไป โดยขณะนี้อุตสาหกรรมน้ำมันของเอกวาดอร์ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากเหตุประท้วงดังกล่าว รวมถึงการปิดบ่อน้ำมันในประเทศ
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 30 มิ.ย. หลังจากมีมติเพิ่มกำลังการผลิต 648,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค.และส.ค.
ทางด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางสำนักงานยังคงอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูระบบจัดเก็บข้อมูล หลังจากที่ประสบปัญหาขัดข้องทางเทคนิคเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจนไม่สามารถประกาศตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
แถลงการณ์ระบุว่า EIA จะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาระบบ และจะกลับมารายงานข้อมูลสต็อกน้ำมันโดยเร็วที่สุด