สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (30 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยและการชะลอตัวของดีมานด์พลังงาน ส่วนผลการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เมื่อวานนี้ ที่ประชุมมีมติเพิ่มกำลังการผลิต 648,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค.
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 4.02 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 105.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.45 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 114.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า การที่ธนาคารกลางหลายแห่งพากันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย และทำให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง นอกจากนี้ นักลงทุนบางส่วนได้ชะลอการซื้อขายก่อนที่จะถึงวันหยุดยาวในสหรัฐ โดยตลาดน้ำมันจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 4 ก.ค.เนื่องในวันชาติสหรัฐ
ที่ประชุมกลุ่มโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิต 648,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค. โดยการเพิ่มกำลังการผลิตดังกล่าวสอดคล้องกับมติเดิมในการประชุมเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ซึ่งที่ประชุมตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิต 648,000 บาร์เรล/วันทั้งในเดือนก.ค.และส.ค. หลังจากที่เพิ่มกำลังการผลิต 432,000 บาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย.
อย่างไรก็ดี การประชุมโอเปกพลัสเมื่อวานนี้ ที่ประชุมหลีกเลี่ยงที่จะอภิปรายเกี่ยวกับนโยบายการผลิตในเดือนก.ย.และเดือนอื่น ๆ หลังจากนั้น
ทั้งนี้ โอเปกพลัสจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตครั้งต่อไปในวันที่ 3 ส.ค.
สำหรับความเคลื่อนไหวด้านอื่น ๆ นั้น ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐยืนยันว่า เขาจะเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียในเดือนก.ค. และมีกำหนดเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลลาซิซ กษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย รวมทั้งมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน
ปธน.ไบเดนกล่าวว่า เป้าหมายในการเดินทางของเขาไม่ใช่เป็นการกดดันให้ซาอุดีอาระเบียเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียงประเทศเดียวเท่านั้น แต่ทุกประเทศรอบอ่าวเปอร์เซียควรเพิ่มการผลิตน้ำมันเช่นกัน โดยทุกประเทศควรตระหนักว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้พวกเขาเองได้รับประโยชน์