สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (8 ส.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนและสหรัฐ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่าความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.75 ดอลลาร์ หรือ 1.97% ปิดที่ 90.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.73 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 96.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานศุลกากรจีนรายงานว่า ยอดส่งออกเดือนก.ค.ของจีนพุ่งขึ้น 18% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดการนำเข้าเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น 2.3% ส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.013 แสนล้านดอลลาร์
ส่วนในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ยอดส่งออกของจีนพุ่งขึ้น 14.7% ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบรายปี
นอกจากนี้ สำนักงานศุลกากรของจีนระบุว่า จีนนำเข้าน้ำมันดิบ 8.79 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีในเดือนมิ.ย.
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 528,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 258,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 3.6%
ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนและสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลง 9.7% และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลงรุนแรงถึง 13.7% ในสัปดาห์ที่แล้ว อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยเศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 0.9% ในไตรมาส 2 หลังจากหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1 ซึ่งการที่เศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกันทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ในวันพุธนี้ เวลาประมาณ 21.30 น.ตามเวลาไทย