สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (8 ส.ค.) หลังจากสื่อรายงานว่าอิหร่านและชาติมหาอำนาจใกล้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ ซึ่งจะเปิดทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันได้อีกครั้ง ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 26 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 90.50 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 34 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 96.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในช่วงแรกนั้น สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น หลังจากทรานสเนฟท์ (Transneft) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัสเซีย เปิดเผยว่า ยูเครนได้ระงับการส่งน้ำมันของรัสเซียไปยังยุโรปตะวันออกผ่านท่อส่งทางตอนใต้ของประเทศ เนื่องจากยูเครนยังไม่ได้รับเงินค่าธรรมเนียมการขนส่งน้ำมันเป็นเวลาเกือบ 1 สัปดาห์ โดยมีสาเหตุจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก
อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงในเวลาต่อมา หลังจากสื่อต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากสหภาพยุโรป (EU) ได้เสร็จสิ้นการจัดทำร่างข้อเสนอฉบับสุดท้ายในการรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ระหว่างอิหร่านและชาติมหาอำนาจ
ทั้งนี้ EU ได้ส่งร่างข้อเสนอดังกล่าวให้กับทางสหรัฐและอิหร่านแล้ว และคาดว่าทั้งสองฝ่ายจะทำการตัดสินใจครั้งสุดท้ายภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ โดยหากอิหร่านและชาติตะวันตกสามารถบรรลุข้อตกลงดังกล่าว ก็จะปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาด
บทวิเคราะห์ของธนาคารคอมมอนเวลธ์ระบุว่า ถึงแม้ว่ารายละเอียดเกี่ยวกับกำหนดการส่งออกน้ำมันของอิหร่านยังคงไม่ชัดเจนในขณะนี้ แต่หากมีการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ ก็มีแนวโน้มว่าอิหร่านจะสามารถกลับมาส่งออกน้ำมันอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มการส่งออก 1.0-1.5 ล้านบาร์เรล/วันภายในเวลา 6 เดือน ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างหนัก นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เวลาประมาณ 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลงเพียง 400,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว