สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (22 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากซาอุดีอาระเบียส่งสัญญาณพร้อมปรับลดกำลังการผลิตเพื่อรับมือกับความท้าทายในตลาด
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 54 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 90.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 96.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในช่วงแรกนั้น สัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย และทำให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลงด้วย
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภาวะขาดแคลนพลังงานที่เกิดขึ้นในพื้นที่ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ขณะที่นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวยอมรับว่า จีนกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุดในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี ตลาดลดช่วงลบในเวลาต่อมา หลังจากเจ้าชายอับดูลาซิส บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีความมุ่งมั่น ความยืดหยุ่น และแนวทางในการรับมือกับความท้าทาย ซึ่งรวมถึงการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันได้ทุกเวลา และในรูปแบบที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้ เจ้าชายอับดูลาซิสกล่าวว่า โอเปกและชาติพันธมิตรจะทำข้อตกลงฉบับใหม่ต่อจากปี 2565 ซึ่งจะสร้างขึ้นบนประสบการณ์ และความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา