สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 4% วันจันทร์ (29 ส.ค.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส อาจจะปรับลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมันในตลาด
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 3.95 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 97.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 4.10 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 105.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
ซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในกลุ่มโอเปก ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่จะปรับลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมัน ในกรณีที่น้ำมันดิบจากอิหร่านหวนคืนสู่ตลาด
ทั้งนี้ เจ้าชายอับดูลาซิส บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า กลุ่มโอเปกพลัสมีความมุ่งมั่น ความยืดหยุ่น และแนวทางในการรับมือกับความท้าทาย ซึ่งรวมถึงการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันได้ทุกเวลา และในรูปแบบที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ เจ้าชายอับดูลาซิสกล่าวว่า โอเปกและชาติพันธมิตรจะทำข้อตกลงฉบับใหม่ต่อจากปี 2565 ซึ่งจะสร้างขึ้นบนประสบการณ์และความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 5 ก.ย. โดยมีการคาดการณ์ว่าที่ประชุมอาจมีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากความไม่สงบทางการเมืองในลิเบีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในประเทศ โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มติดอาวุธและกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลในกรุงทริโปลี เมืองหลวงของลิเบีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 32 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก