สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 5% วันอังคาร (30 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกอาจส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า อิรักพร้อมที่จะเพิ่มการส่งออกน้ำมันดิบไปยังยุโรป
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 5.37 ดอลลาร์ หรือ 5.5% ปิดที่ 91.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ดิ่งลง 5.78 ดอลลาร์ หรือ 5.5% ปิดที่ 99.31 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนัก ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับความต้องการใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง หลังจากธนาคารกลางทั่วโลก ซึ่งรวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นายมาดิส มูลเลอร์ ประธานธนาคารกลางเอสโทเนีย กล่าวว่า ECB ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 8 ก.ย.เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ โดยขณะนี้เงินเฟ้อในยูโรโซนอยู่สูงกว่าเป้าหมายที่ 2% ของ ECB ถึง 4 เท่า
ทางด้านนางอิสซาเบล ชนาเบล กรรมการ ECB กล่าวเช่นกันว่า ECB ควรจะใช้นโยบายการเงินอย่างเข้มงวดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่น้อยกว่า 0.50% ในเดือนก.ย. แม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย
ส่วนแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดนั้น ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 76.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 23.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
นอกจากนี้ ตลาดยังไดัรับแรงกดดันหลังจาก SOMO ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐบาลอิรักแถลงว่า ทางบริษัทพร้อมที่จะเพิ่มการส่งออกน้ำมันดิบไปยังยุโรป หากมีความจำเป็น
แหล่งข่าวระบุว่า SOMO ได้เพิ่มการส่งออกน้ำมันไปยังยุโรปตั้งแต่เดือนมิ.ย. หลังจากที่บางประเทศในเอเชีย เช่น จีนและอินเดีย ได้หันไปซื้อน้ำมันราคาถูกจากรัสเซีย ขณะที่ยุโรปคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนในเดือนก.พ.
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 5 ก.ย.นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลง 1.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ส.ค. และคาดว่าสต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลงราว 1.3 ล้านบาร์เรล