สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ (7 ก.ย.) เนื่องจากข้อมูลการค้าที่อ่อนแอของจีนทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 4.94 ดอลลาร์ หรือ 5.7% ปิดที่ 81.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 4.83 ดอลลาร์ หรือ 5.2% ปิดที่ 88 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมัน WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ต่างก็ปิดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ยังร่วงหลุดจากระดับ 90 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.
ตลาดได้รับแรงกดดันจากข้อมูลการค้าที่ย่ำแย่ของจีน โดยสำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานว่า ยอดส่งออกเดือนส.ค.ของจีนเพิ่มขึ้นเพียง 7.1% ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนก.ค.ที่มีการขยายตัว 18% เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์และภาวะเงินเฟ้อส่งผลให้ความต้องการสินค้าจีนในต่างประเทศลดลง ขณะที่ยอดการนำเข้าเดือนส.ค.ขยับขึ้นเพียง 0.3% ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนก.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 2.3%
ข้อมูลของ GAC ยังระบุด้วยว่า จีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลกนั้น นำเข้าน้ำมันดิบในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 9.92 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งลดลง 4.7% เมื่อเทียบรายปี เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์สกัดโรคโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันนี้ และคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เช่นกันในวันที่ 21 ก.ย.
ส่วนเมื่อวานนี้ ธนาคารกลางแคนาดาประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% สู่ระดับ 3.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี และในวันอังคารที่ผ่านมา ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่ระดับ 2.35% โดยธนาคารกลางทั้ง 2 แห่งส่งสัญญาณว่าจะปรับดอกเบี้ยขึ้นอีกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอลคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ก.ย.