สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันศุกร์ (30 ก.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมัน หลังจากที่การคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่าง ๆ ได้เพิ่มความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 1.74 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 79.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 53 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 87.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นเกือบ 1% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 2.1%
ส่วนในเดือนก.ย. สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 11% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 8.8%
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงจากแรงเทขาย ขณะที่นักลงทุนมีความวิตกมากขึ้นว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่าง ๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงที่เศรษฐกิจที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างรุนแรงในเดือนก.ย. และในไตรมาส 3 โดยถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบที่กำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น และไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
แต่ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มที่กลุ่มโอเปกพลัสจะประกาศปรับลดการผลิตน้ำมันในการประชุมวันพุธหน้า (5 ต.ค.)