สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (11 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศจีน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.78 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 89.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.9 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 94.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และนายเดวิด มัลพาส ประธานธนาคารโลก เตือนว่า เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเผชิญภาวะถดถอยในปีหน้า และเงินเฟ้อยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารโจมตียูเครนในเดือนก.พ.
IMF เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) เมื่อวานนี้ โดยได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2566 สู่ระดับ 2.7% จากเดิมที่ระดับ 2.9% โดยระบุว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ได้แก่ การที่รัสเซียส่งกำลังทหารโจมตียูเครน วิกฤตค่าครองชีพ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งจะทำให้เกิดความผันผวนทางเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ และนิเวศวิทยา
ขณะเดียวกัน IMF ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้และปีหน้า สู่ระดับ 1.6% และ 1% ตามลำดับ โดยได้รับผลกระทบจากการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นอกจากนี้ IMF ยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้และปีหน้า สู่ระดับ 3.2% และ 4.4% ตามลำดับ โดยถูกกระทบจากการที่จีนใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด และวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในจีนยังเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมัน หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ทางการจีนเร่งใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดก่อนถึงกำหนดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนในวันที่ 16 ต.ค.นี้ ขณะที่ประชาชนต่างพากันวิตกกังวลว่า ทางการจีนจะบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ในนครเซี่ยงไฮ้อีกรอบ