สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (21 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และจากการคาดการณ์ที่ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในจีนจะเพิ่มขึ้น หลังมีรายงานข่าวว่าจีนกำลังพิจารณาลดเวลาการกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศ
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 54 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 85.05 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 0.5% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.12 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 93.5 ดอลลาร์/บาร์เรล และเพิ่มขึ้น 2% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนบางส่วนจากการที่ดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.79% แตะที่ระดับ 111.9900
การอ่อนค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้นมีราคาถูกลง และน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
ตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มโอเปกพลัสประกาศเมื่อต้นเดือนนี้ที่จะปรับลดการผลิตน้ำมันลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนหน้า แม้ยังคงมีความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันก็ตาม
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในจีนจะเพิ่มขึ้น หลังจากที่มีรายงานข่าวว่า จีนกำลังพิจารณาที่จะลดเวลาการกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 จาก 10 วันลงเหลือ 7 วัน