สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (16 พ.ย.) หลังจากมีรายงานว่า รัสเซียเริ่มกลับมาลำเลียงน้ำมันผ่านทางท่อส่งดรูซบา (Druzhba) ไปยังฮังการีแล้ว หลังจากที่ถูกระงับก่อนหน้านี้เนื่องจากปัญหาทางเทคนิค นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ย่ำแย่ลงในจีน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.33 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 85.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 92.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลง หลังจากรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของฮังการีเปิดเผยว่า การลำเลียงน้ำมันจากรัสเซียผ่านทางท่อส่งดรูซบานั้น ได้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง หลังจากที่หยุดชะงักก่อนหน้านี้เนื่องจากปัญหาแรงดันตก
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในจีน โดยคณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงว่า จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่สูงถึง 20,199 รายในวันอังคารที่ 15 พ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 17,909 รายในวันจันทร์ที่ 14 พ.ย.
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในจีนกำลังกลายเป็นบททดสอบประสิทธิภาพของมาตรการโควิดเป็นศูนย์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และอาจขัดขวางความพยายามของจีนในการเปิดประเทศ หลังจากที่จีนเพิ่งประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ด้วยการลดระยะเวลาการกักตัวของผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และยกเลิกค่าปรับสายการบินในกรณีที่พบผู้โดยสารติดเชื้อ
อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบลดช่วงลบในระหว่างวัน หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 5.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 400,000 บาร์เรล
ข้อมูลของ EIA ยังระบุด้วยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล