สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันศุกร์ (18 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่เกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 1.56 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 80.08 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2565 และร่วงลง 9.98% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 2.16 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 87.62 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลง 8.7% ในรอบสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันได้รับผลกระทบจากการที่จีนรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นในหลายเมือง ซึ่งจะทำให้จีนใช้มาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจะกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันในประเทศ
นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส ซิตีกล่าวว่า เฟดอาจจะต้องทำให้เศรษฐกิจหดตัวลงเพื่อให้เงินเฟ้อชะลอตัว ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงมีความตึงตัว
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันหลังเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐซึ่งจะบ่งชี้ถึงผลผลิตน้ำมันในอนาคตนั้น เพิ่มขึ้น 1 แท่น สู่ระดับ 623 แท่นในสัปดาห์นี้
บรรดานักลงทุนจะจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 4 ธ.ค.