สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% ทะลุระดับ 81 ดอลลาร์ หลังจากที่ซาอุดีอาระเบียปฏิเสธรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล โดยยืนยันว่า ซาอุดีอาระเบียและสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่ได้หารือกันเกี่ยวกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิต
ณ เวลา 19.57 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX บวก 1.17 ดอลลาร์ หรือ 1.46% สู่ระดับ 81.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าว SPA ของซาอุดีอาระเบียรายงานว่า เจ้าชายอับดูลาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย กล่าวปฏิเสธรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล โดยยืนยันว่า ซาอุดีอาระเบียและสมาชิกของโอเปกไม่ได้หารือกันเกี่ยวกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตแต่อย่างใด
"เป็นที่รู้กันว่า โอเปกพลัสจะไม่มีการหารือการตัดสินใจใดๆก่อนการประชุม และการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 2 ล้านบาร์เรล/วันในขณะนี้จะยังคงดำเนินไปจนถึงสิ้นปี 2566 และหากมีความจำเป็นในการปรับลดกำลังการผลิตต่อไปเพื่อสร้างสมดุลต่ออุปสงค์และอุปทาน เราก็พร้อมที่จะแทรกแซงตลอดเวลา" เจ้าชายบิน ซัลมานกล่าว
ด้านสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และคูเวตก็ได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวของวอลล์สตรีท เจอร์นัลเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวจากรัฐมนตรีของกลุ่มโอเปก ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียและสมาชิกโอเปกกำลังหารือกันเกี่ยวกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน
รายงานระบุว่า โอเปกกำลังหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 500,000 บาร์เรล/วันในการประชุมนโยบายการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 ธ.ค.
วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า โอเปกหารือเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตดังกล่าว หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ แจ้งต่อผู้พิพากษาศาลสหรัฐว่า เจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฏราชกุมารซาอุดีอาระเบีย ควรได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองจากการถูกดำเนินคดีในสหรัฐกรณีมีส่วนพัวพันการสังหารนายจามาล คาชอกกี นักข่าวชาวซาอุดีอาระเบีย
รายงานระบุว่า ท่าทีที่ผ่อนคลายลงของปธน.ไบเดนได้สร้างความพอพระทัยต่อเจ้าชายบิน ซัลมาน และจะเป็นการเสริมสถานะของพระองค์ในการเป็นผู้นำโดยพฤตินัยของซาอุดีอาระเบีย หลังจากที่คดีดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบีย
ก่อนหน้านี้ โอเปกพลัสสร้างความไม่พอใจต่อสหรัฐ หลังประกาศปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 2 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมวันที่ 5 ต.ค. ซึ่งเป็นการปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดของโอเปกพลัสนับตั้งแต่ปี 2563 และเป็นการปรับลดกำลังการผลิตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 แม้ว่าปธน.ไบเดน ต้องการให้มีการเพิ่มกำลังการผลิต เนื่องจากกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นจะกระทบต่อคะแนนนิยมของรัฐบาลสหรัฐ
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ในวันนี้ ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 2.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว