สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (22 พ.ย.) หลังจากซาอุดีอาระเบียได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล โดยยืนยันว่าซาอุดีอาระเบียและสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่ได้หารือกันเกี่ยวกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิต
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 80.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 88.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวจากรัฐมนตรีของกลุ่มโอเปก ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียและสมาชิกโอเปกกำลังหารือกันเกี่ยวกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 500,000 บาร์เรล/วันในการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสวันที่ 4 ธ.ค.นี้
แต่หลังจากนั้น สำนักข่าว SPA ของซาอุดีอาระเบียรายงานว่า เจ้าชายอับดูลาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบียได้ปฏิเสธรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล โดยยืนยันว่า ซาอุดีอาระเบียและสมาชิกของโอเปกไม่ได้หารือกันเกี่ยวกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตแต่อย่างใด
"เป็นที่รู้กันว่า โอเปกพลัสจะไม่มีการหารือการตัดสินใจใดๆก่อนการประชุม และการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 2 ล้านบาร์เรล/วันในขณะนี้จะยังคงดำเนินไปจนถึงสิ้นปี 2566 และหากมีความจำเป็นในการปรับลดกำลังการผลิตต่อไปเพื่อสร้างสมดุลต่ออุปสงค์และอุปทาน เราก็พร้อมที่จะแทรกแซงตลอดเวลา" เจ้าชายบิน ซัลมานกล่าว
อย่างไรก็ดี ตลาดน้ำมันได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ย่ำแย่ลงในจีน โดยล่าสุดกรุงปักกิ่งซึ่งเป็นเมืองหลวงของจีนประกาศปิดสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์ และเรียกร้องให้ประชาชนอยู่แต่ในที่พักอาศัย หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 1,438 รายในวันจันทร์ (21 พ.ย.) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 962 รายในวันอาทิตย์ (20 พ.ย.)
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 2.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว