สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% ในวันพุธ (23 พ.ย.) หลังมีรายงานว่ากลุ่มประเทศ G7 เตรียมกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียไม่ให้เกิน 70 ดอลลาร์/บาร์เรล นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐที่พุ่งขึ้นมากกว่าคาด รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 3.01 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 77.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 2.95 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 85.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากมีรายงานว่า กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ G7 เตรียมกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียในกรอบ 65-70 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่เอกอัครราชทูตจาก 27 ประเทศของ EU กำลังหารือข้อเสนอดังกล่าวของ G7 เพื่อให้มีการบรรลุฉันทามติ
G7 รวมทั้ง EU และออสเตรเลียมีกำหนดบังคับใช้เพดานราคาน้ำมันรัสเซียดังกล่าวในวันที่ 5 ธ.ค. โดยจะมีผลบังคับใช้ต่อน้ำมันรัสเซียที่มีการขนส่งผ่านทางเรือบรรทุกน้ำมัน แต่ไม่รวมน้ำมันที่มีการขนส่งผ่านท่อส่งน้ำมัน
การกำหนดเพดานราคาน้ำมันถือเป็นมาตรการลงโทษรัสเซียที่ส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนในวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งเมื่อมีการประกาศใช้จะทำให้บริษัทเดินเรือ, บริษัทประกันวินาศภัย และบริษัทประกันภัยต่อ ไม่สามารถให้บริการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งคาร์โกน้ำมันรัสเซียที่มีราคาสูงกว่าเพดานที่ G7 และพันธมิตรกำหนดไว้
ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างหนักในจีนยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด โดยจีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 29,157 รายในวันอังคาร (22 พ.ย.) เพิ่มขึ้นจากระดับ 28,127 รายในวันจันทร์ (21 พ.ย.) ขณะที่เมืองสำคัญหลายแห่งของจีนตั้งแต่กรุงปักกิ่งไปจนถึงเซี่ยงไฮ้ได้ประกาศควบคุมการเดินทางของประชาชน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
*ตลาดน้ำมันนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 24 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า