สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันศุกร์ (16 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางรายใหญ่ส่งสัญญาณว่าจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีหน้า ซึ่งทำให้เกิดความวิตกว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอยซึ่งอาจทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.82 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 74.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 2.17 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 79.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันยังปรับตัวลงตามตลาดหุ้นนิวยอร์กซึ่งถูกกดดัน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลงมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เมื่อวันพุธ (14 ธ.ค.) และบ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed-funds rate) มีแนวโน้มที่จะแตะระดับสูงสุดเหนือ 5% ในปีหน้า และจะคงอยู่ที่ระดับดังกล่าวหลังจากนั้น
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ต่างก็ลงมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ และจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
"ตลาดเริ่มปรับตัวรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งจะเพิ่มความวิตกเกี่ยวกับความต้องการใช้น้ำมันในอนาคต" นายฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์อาวุโสด้านพลังงานของเดอะ ไพรซ์ ฟิวเจอร์ส กรุ๊ปกล่าวเมื่อวันศุกร์
ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลงด้วย โดยเอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 44.6 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 46.4 ในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัว โดยหดตัวเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 4.6% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้น 3.9% โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่ว่า การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของจีนจะกระตุ้นความต้องการใช้น้ำมันในจีนซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศผู้ใช้พลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลก
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปิดเหนือระดับต่ำสุดของวันศุกร์ เนื่องจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า จะเริ่มซื้อน้ำมันเพื่อเติมสต็อกน้ำมันสำรองของประเทศ
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า กระทรวงจะซื้อน้ำมัน 3 ล้านบาร์เรลเพื่อนำเข้าสู่คลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) โดยน้ำมันดังกล่าวมีกำหนดส่งมอบในเดือนก.พ. 2566