สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์น้ำมันปาล์มที่ใหญ่ที่สุด กำลังศึกษากฎระเบียบว่าด้วยการกำหนดให้ผู้ส่งออกต้องทำการค้าน้ำมันของตนอย่างน้อยบางส่วนในประเทศก่อนที่จะส่งออกไปยังต่างประเทศ เพื่อยกระดับการควบคุมและความโปร่งใสของข้อมูล
นายดิดิด นูร์เดียตโมโก รักษาการหัวหน้าหน่วยงานกำกับดูแลการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า (Bappebti) เปิดเผยว่า กฎระเบียบดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มีราคาอ้างอิงผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์ม เพื่อใช้คำนวณภาษีและการจัดเก็บภาษีส่งออก และเปิดโอกาสให้มองเห็นอุปสงค์และอุปทานได้ชัดเจนขึ้น
ทั้งนี้ ราคาสินค้าในประเทศที่พุ่งสูงขึ้นบีบให้รัฐบาลต้องระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มชั่วคราวเมื่อเดือนเม.ย. ส่งผลให้เกิดความวุ่นวายในตลาดโลกและตลาดในท้องถิ่น โดยอินโดนีเซียพยายามเพิ่มการควบคุมราคาและอุปทาน และหาแนวทางยกระดับห่วงโซ่คุณค่าในแง่ของการขายในต่างประเทศ
นายนูร์เดียตโมโก กล่าวว่า "เราเห็นว่า บริษัทหลายแห่งขายน้ำมันปาล์มให้กับบริษัทในเครือ ซึ่งส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมในราคาพิเศษด้วย" นั่นหมายความว่า รายได้จากการเก็บภาษีน้ำมันปาล์มของรัฐอาจจะไม่ได้มากอย่างที่ควรจะเป็น