สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันศุกร์ (3 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบท่ามกลางความไม่แน่ใจเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันจากจีนหลังวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน นอกจากนี้ แนวโน้มที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในสหรัฐหลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดนั้น ส่งผลกดดันตลาดน้ำมันด้วย
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 2.49 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 73.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. และราคาร่วงลง 7.9% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 2.23 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 79.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค. และราคาร่วงลง 7.5% ในรอบสัปดาห์นี้
ตลาดน้ำมันถูกกดดันจากแนวโน้มอุปสงค์ที่ไม่แน่นอนจากจีน รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นในสหรัฐหลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 517,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 187,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2512 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.6%
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 ม.ค.