สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดช่วงบวก หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
ณ เวลา 23.38 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX บวก 0.28 ดอลลาร์ หรือ 0.34% สู่ระดับ 77.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 2.1 ล้านบาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 5 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นในช่วงแรก ขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนาซึ่งจัดโดยสมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตัน (Economic Club of Washington) เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลง และปีนี้จะเป็นปีที่เงินเฟ้อชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ คำกล่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเฟดจะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัว หลังตุรกีสั่งปิดท่าเรือเจย์ฮัน หลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
ท่าเรือเจย์ฮันเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ที่ส่งออกน้ำมันดิบมากกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนม.ค. หรือคิดเป็น 1% ของปริมาณน้ำมันดิบทั่วโลก และส่วนใหญ่มีการส่งไปยังโรงกลั่นน้ำมันในยุโรป
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันได้ปัจจัยบวกจากการเปิดประเทศของจีน ซึ่งจะช่วยหนุนอุปสงค์น้ำมันในประเทศ